กลุ่มประมงชายฝั่งจังหวัดระนองยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯขอผ่อนผันการทำประมงในเขตหวงห้าม หลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุมอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 12 ก.ย.54 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดระนอง ได้มีกลุ่มประมงชายฝั่งจังหวัดระนอง ประเภทอวนรุนและอวกปากเสือ จากตำบลปากน้ำ บางริ้น บางนอน ราชกรูด อ.เมือง และ ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น ประมาณ 70 คน พร้อมป้ายเขียนข้อความเรียกร้องขอความเป็นธรรมและขอผ่อนผันทำประมงในเขตหวงห้าม 3,000 เมตร หลังจากที่ผ่านมาถูกเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามของกรมประมงเข้าจับกุมอย่างต่อเนื่อง จนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถหารายได้มาเลี้ยงครอบได้
และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาเครื่องมือ เงินทุน และฝึกอาชีพอื่นให้เพื่อปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ย้ายเจ้าหน้าที่ประมง 2 นายออกจากพื้นที่ด้วย เนื่องจากใช้อำนาจเกินหน้าที่ โดยยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง โดยแนบรายชื่อจำนวน 74 คน เพื่อขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
จากนั้นตัวแทนประมงชายฝั่งได้ประชุมร่วมกับ นางสาวจิตรา พรหมชุติมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายวิโรจน์ แสงศิวะฤทธิ์ ปลัดจังหวัดระนอง นายขวัญไชย อยู่ดี ประมงจังหวัดระนอง ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัด ซึ่งได้ข้อสรุปโดยนางสาวจิตรา ได้ขอให้ประมงจังหวัดทำหนังสือขออนุญาตผ่อนผันไปยังกรมประมงก่อน
โดยชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นเนื่องจากสภาพภูมิประเทศทางทะเลของจังหวัดระนองไม่เหมือนกับจังหวัดอื่นๆ หากให้ทำประมงนอกเขต 3,000 เมตรจากฝั่ง ก็จะรุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้านแล้ว พร้อมทั้งแนะนำให้ชาวประมงชายฝั่งต้องรู้จักปรับตัวไปหาอาชีพเสริมด้วย เพราะในอนาคตข้างหน้าเกิดภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลก เกิดภาวะโลกร้อน ทำให้สัตว์น้ำทะเลลดน้อยลงเรื่อยๆ จะประกอบอาชีพประมงตลอดไปคงเป็นไปไม่ได้แล้ว
นอกจากนี้ ขอให้ประมงจังหวัดไปจัดประชุมพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันในระยะยาวต่อไปด้วย ซึ่งหลังจากได้รับฟังคำชี้แจงจนเป็นที่พอใจแล้วกลุ่มผู้เรียกร้องได้แยกย้ายกันกลับเมื่อเวลา 12.00 น.
วันที่ 12 ก.ย.54 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดระนอง ได้มีกลุ่มประมงชายฝั่งจังหวัดระนอง ประเภทอวนรุนและอวกปากเสือ จากตำบลปากน้ำ บางริ้น บางนอน ราชกรูด อ.เมือง และ ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น ประมาณ 70 คน พร้อมป้ายเขียนข้อความเรียกร้องขอความเป็นธรรมและขอผ่อนผันทำประมงในเขตหวงห้าม 3,000 เมตร หลังจากที่ผ่านมาถูกเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามของกรมประมงเข้าจับกุมอย่างต่อเนื่อง จนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถหารายได้มาเลี้ยงครอบได้
และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาเครื่องมือ เงินทุน และฝึกอาชีพอื่นให้เพื่อปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ย้ายเจ้าหน้าที่ประมง 2 นายออกจากพื้นที่ด้วย เนื่องจากใช้อำนาจเกินหน้าที่ โดยยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง โดยแนบรายชื่อจำนวน 74 คน เพื่อขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
จากนั้นตัวแทนประมงชายฝั่งได้ประชุมร่วมกับ นางสาวจิตรา พรหมชุติมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายวิโรจน์ แสงศิวะฤทธิ์ ปลัดจังหวัดระนอง นายขวัญไชย อยู่ดี ประมงจังหวัดระนอง ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัด ซึ่งได้ข้อสรุปโดยนางสาวจิตรา ได้ขอให้ประมงจังหวัดทำหนังสือขออนุญาตผ่อนผันไปยังกรมประมงก่อน
โดยชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นเนื่องจากสภาพภูมิประเทศทางทะเลของจังหวัดระนองไม่เหมือนกับจังหวัดอื่นๆ หากให้ทำประมงนอกเขต 3,000 เมตรจากฝั่ง ก็จะรุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้านแล้ว พร้อมทั้งแนะนำให้ชาวประมงชายฝั่งต้องรู้จักปรับตัวไปหาอาชีพเสริมด้วย เพราะในอนาคตข้างหน้าเกิดภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลก เกิดภาวะโลกร้อน ทำให้สัตว์น้ำทะเลลดน้อยลงเรื่อยๆ จะประกอบอาชีพประมงตลอดไปคงเป็นไปไม่ได้แล้ว
นอกจากนี้ ขอให้ประมงจังหวัดไปจัดประชุมพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันในระยะยาวต่อไปด้วย ซึ่งหลังจากได้รับฟังคำชี้แจงจนเป็นที่พอใจแล้วกลุ่มผู้เรียกร้องได้แยกย้ายกันกลับเมื่อเวลา 12.00 น.
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น