ศุลกากรระนองโชว์ตัวเลขนำเข้า-ส่งออก การค้าชายแดนด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง ยอดพุ่ง พุ่งทะลุ 13,000 ล้านบาท
นายหาญศักดิ์ วัลศิริ นายด่านศุลกากรระนอง เปิดเผยว่า การค้าชายแดนไทย-พม่าด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง ประจำปีงบประมาณ 2553 (ต.ค.2552-ส.ค.2553) มียอดการส่งออกสินค้าจากไทยไปยังพม่าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากเดิมเฉลี่ย 800-900 ล้านบาทต่อเดือน
แต่ในปีนี้จากความต้องการบริโภคสินค้าในทุกกลุ่มสินค้าของประชาชนชาวพม่าที่เพิ่มขึ้น ทำให้ตัวเลขการส่งออกเพิ่มโดยเฉลี่ย 1,000-1,200 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนการนำเข้าสินค้าจากพม่าลดลงจากเดิมเฉลี่ย 200-300 ล้านบาทต่อเดือน ลดเหลือเพียง 100-200 ล้านบาทต่อเดือน
โดยเหตุผลหลักที่ตัวเลขการนำเข้าลดลงมาจากปริมาณสัตว์น้ำที่เป็นสินค้าหลักที่ไทยนำเข้ามาจากพม่ามากถึง 72.5% มีปริมาณลดลงอันเป็นผลมาจากยอดการจับสัตว์น้ำได้ลดลงรวมถึงปัญหาสภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลง
นายหาญศักดิ์กล่าวว่า สำหรับการค้าชายแดนระนอง-เกาะสอง ช่วง 10 เดือนของปีงบประมาณ 2553สองป้น ที่ให้การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลระนอง (ระนองเอฟซี) ในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้ ที่สนามกีฬาจังหวัดระนอง.. มีมูลค่าจำนวน 13,750 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 11,187 ล้านบาท สินค้าส่งออก 10 อันดับแรกประกอบด้วย น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น,เครื่องดื่มต่างๆ, เครื่องดื่มให้พลังงาน, ครีมเทียม, โอวัลติน, เบียร์, ท่อเหล็ก, ปูนซิเมนต์, ของทำด้วยเหล็ก, อวน, ตายข่ายจับปลา
ส่วนการนำเข้า 2,562 ล้านบาท สินค้านำเข้า 10 อันดับแรกประกอบด้วย สัตว์น้ำ, ของทำด้วยเหล็ก, ถ่านไม้, ท่อเหล็ก, ปลาป่น, กระเพาะปลา, ข้อต่อเหล็ก, สิ่งปรุงแต่งใช้ในงานปิโตรเลียม, ไม้แปรรูป และเครื่องผสมสี
นายหาญศักดิ์กล่าวด้วยว่า ปัจจัยการปิดด่านทางภาคเหนือส่งผลต่อยอดการส่งออกและนำเข้าด้านด่านชายแดนจังหวัดระนอง-เกาะสองน้อยมาก เนื่องจากความยากลำบากในเส้นทางการขนส่งที่ต้องใช้ทางเรือเป็นระยะทางยาวไกล แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขการค้าชายแดนด้านจังหวัดระนอง-เกาะสองมียอดเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากปริมาณการบริโภคและความต้องการสินค้าในฝั่งประเทศพม่าเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากพม่ามีโครงการก่อสร้างและพัฒนาเมืองทางตอนใต้โดยเฉพาะย่านทวายและมะริด ส่งผลให้เกิดความต้องการสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น
ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น