วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กรมทรัพย์ซ้อมแผนเตือนภัยดินถล่ม

กรมทรัพยากรธรณี ซ้อมแผนการเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนภัย การอพยพประชาชนและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่มที่จังหวัดระนอง
      
       
วันที่ 24 พ.ย.54 นายประสาน วงศ์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมแผนการเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนภัย การอพยพประชาชนและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่มจังหวัดระนอง ณ โรงเรียนบ้านนา ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง มีนายฟูยศ โชติคณาทิศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กล่าวรายงาน
      
       การซ้อมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อซักซ้อมการปฏิบัติในการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัย และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม อีกทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือของราษฎรในพื้นที่เสี่ยงธรณีพิบัติ ภัย เพื่อทำการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า
      
       อันจะเป็นการบรรเทาความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งมีราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดธรณีพิบัติภัยดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน องค์การบริหารส้นท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดระนอง เข้าร่วมฝึกซ้อมจำนวน 350 คน
      
       ทั้งนี้ ได้มีการจำลองสถานการณ์มีฝนตกหนักต่อเนื่องประมาณ 3 ชั่วโมง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 200 มิลลิเมตร ได้เกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายรายหน่วยกู้ชีพกู้ภัยต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บ และอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เน้นการปฏิบัติทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ซึ่งในระหว่างฝึกซ้อมได้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงตลอดเวลาทำให้เป็น อุปสรรคในการฝึกซ้อม
      
       นายฟูยศ โชติคณาทิศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาธรณีวิทยา กล่าวว่า การฝึกซ้อมแผนเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่ม ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งได้ตระหนักและห่วงใยถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จากการศึกษาของกรมทรัพยากรธรณี พบว่า ในพื้นที่จังหวัดระนอง มีความเสี่ยงต่อการเกิดธรณีพิบัติภัยดินถล่ม ซึ่งกรมทรัพยากรธรณีได้จัดฝึกอบรมและจัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังเตือนธรณี พิบัติภัยจังหวัดระนองในพื้นที่ 5 อำเภอ 18 ตำบล 65 หมู่บ้าน จำนวนทั้งสิ้น 470 คน
      
       นายประสาน วงศ์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จังหวัดระนองมีพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีโอกาสเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากใน หลายพื้นที่ สำหรับพื้นที่ตำบลบ้านนา อำเภอกะเปอร์ มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน มีคลองกะเปอร์ และคลองทองหลาง ไหลผ่านหมู่บ้าน สภาพธรณีวิทยาเป็นหินโคลนปนกรวด หินดินดาน และหินทราย ถูกแทรกด้วยหินแกรนิต ทำให้ชั้นดินบางแห่งมีการผุพังอย่างรวดเร็ว มีบ้านเรือนของประชาชนในบางส่วนตั้งที่อยู่อาศัยในหุบเขาแคบ และชิดติดริมน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดดินถล่มขึ้นในพื้นที่
      
       ในอดีตเมื่อปี พ.ศ.2538 และ พ.ศ.2540 พบว่า พื้นที่ตำบลบ้านนาเคยประสบภัยดินไหล และน้ำป่าไหลหลาก ทำให้บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายบางส่วน และยังพบร่องรอยดินไหลมากกว่า 23 แห่งด้วย ดังนั้น การฝึกซ้อมแจ้งเตือนภัยดินถล่มจะช่วยลดผลกระทบและลดการสูญเสียชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเกิดเหตุการณ์จริงขึ้น ซึ่งต้องขอขอบคุณกรมทรัพยากรธรณีและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้เสียสละ เวลามาฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ผบช.ภ.8 เน้นย้ำปราบปรามยาเสพติด-อาชญากรรม

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มอบนโยบายให้ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เน้นย้ำการปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมทุกประเภท พร้อมแสวงความร่วมมือจากประชาชน      
       
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 พ.ย.54  ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ได้ประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้แก่ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง มี พล.ต.ต.วิทูร ธรรมรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง รองผู้บังคับการ ผู้กำกับการ รองผู้กำกับการจากทุกโรงพัก และหัวหน้าหน่วยข้างเคียง เช่น ตำรวจน้ำ ท่องเที่ยว ตม.สันติบาล ตชด.ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เป็นต้น เข้าร่วมประชุม
      
       พล.ต.ท.สันติ กล่าวว่า ระนองถือเป็นจังหวัดสุดท้ายที่ตนเดินทางไปมอบนโยบายหลังจากได้รับแต่งตั้ง ให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 โดยได้เน้นย้ำเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพราะถือว่าสำคัญที่สุด เป็นนโยบายของรัฐบาล ต้องทำงานเชิงรุก เมื่อจับกุมต้องยึดทรัพย์ทุกราย
      
       โดยเฉพาะจังหวัดระนอง เป็นพื้นที่ชายแดนถือเป็นทางผ่านที่สำคัญต้องสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดเข้ามา หากมียาเสพติดจากพื้นที่ภาค 8 เล็ดลอดผ่านไปยังในพื้นที่ภาค 9 ได้ถือว่าการทำงานยังไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าจับกุมได้ก่อนถือว่าทำงานได้ผล ซึ่งต้องบูรณาการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน และต้องแสวงความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสด้วย ต้องสร้างความสงบสุขให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดไม่ว่าเป็นหน่วยงาน ใด จะเป็นตำรวจหรือไม่ก็ตามจะต้องดำเนินการทันที
      
       ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวด้วยว่า นอกจากปัญหายาเสพติดแล้ว ปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ ก็ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดเช่นกัน เช่น ปัญหาการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ อาวุธปืน เป็นต้น
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ตร.ระนองจับพ่อค้ายาบ้าพร้อมของกลาง 2 พันเม็ด

ตำรวจภูธรระนองร่วมกับทหาร ฉก.ร.25 จับกุมผู้ค้ายาเสพติดพร้อมยาบ้า 2,039 เม็ด      
       
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 พ.ย.54 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทูร ธรรมรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายพงษ์นุกูล ชมสิน อายุ 32 ปี พร้อมยาบ้า 2,039 เม็ด หลังจากที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดระนองร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะ กิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี จับกุมได้ขณะที่นายพงษ์นุกูลขับรถยนต์กระบะตอนครึ่งหมายเลขทะเบียน บจ 586 ระนอง ผ่านด่านตรวจทหารที่บ้านในวง หมู่ที่ 2 ต.ในวงเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง
      
       ตรวจค้นในรถพบยาบ้าซุกซ่อนไว้ ซึ่งจากการสอบสวนนายพงษ์นุกูล ให้การรับสารภาพลักลอบค้ายาบ้ามาแล้ว 5 ครั้งๆ ละ 2,000 เม็ด ได้ค่าจ้างครั้งละ 15,000 บาท โดยมีการโทรศัพท์สั่งการจากเรือนจำแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช
      
       พล.ต.ท.สันติ กล่าวว่า การที่ผู้ต้องหาอ้างว่าสั่งยาบ้าทาง โทรศัพท์จากผู้ต้องขังที่เป็นเครือข่ายในเรือนจำนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานกับเรือนจำต่อไป ทุกครั้งที่มีการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดจะใช้มาตรการยึดทรัพย์ด้วย
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

สภาอบจ.ระนองผ่านงบประมาณรายจ่ายปี 55 กว่า 192 ล้าน

สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ผ่านร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 วงเงิน 192,406,400 บาท       
       
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ย.54 นายอิสหาก สาลี ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง เป็นประธานการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง สมัยวิสามัญ สมัยที่ 8 ประจำปี พ.ศ. 2554 ซึ่งมีสมาชิกลงชื่อเข้าร่วมประชุมจำนวน 18 คน จาก 24 คน มีนายนภา นทีทอง นายก อบจ.ระนอง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการของ อบจ.ระนอง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
      
       ที่ประชุมได้มีการพิจารณาญัตติร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 วงเงิน 192,406,400 บาท ที่ค้างการพิจารณามาจากการประชุมครั้งก่อน เนื่องจากได้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณราย จ่าย
      
       นายอุดม ยกทอง สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอกะเปอร์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบ ร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ชี้แจงว่า คณะกรรมการได้ตรวจสอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณดังกล่าว ตามข้อเสนอของสภา อบจ.เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมแบบแปลนก่อสร้างเพียง 1 โครงการเดียวคือ โครงการก่อสร้างศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลราชกรูด ซึ่งไม่มีสมาชิกคนใดอภิปรายเพิ่มเติม ประธานการประชุมจึงได้ขอมติต่อที่ประชุมโดยสมาชิกให้ความเห็นชอบรับหลักการ ร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555
      
       จากนั้นนางสุธาทิพย์ ฐอสุวรรณ สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอเมืองระนอง ได้เสนอตั้งคณะกรรมการแปรญัตติร่างข้อบัญญัติงบประมาณ จำนวน 6 คน ซึ่งสมาชิกได้เสนอชื่อ ดังนี้ นายอุดม ยกทอง นายธวัช ใจดี นายสุรพล ชูศรี นายประภาส พัฒน์ชูชีพ นางสุธาทิพย์ ฐอสุวรรณ และนายวรานนท์ เกลื่อนสิน พร้อมทั้งเสนอกำหนดวันรับคำแปรญัตติระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2554 และกำหนดวันพิจารณาคำแปรญัตติระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม 2554
      
       นายอิสหาก สาลี ประธานสภา อบจ.ระนอง กล่าวว่า คาดว่าจะมีการกำหนดประชุมสภา อบจ.ระนอง เพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ในวาระที่ 2 และ3 ภายในวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ซึ่งสภาไม่ได้ยื้อเวลาแต่อย่างใด เป็นไปตามกลไกของสภา ปีนี้ถือว่าการพิจารณางบประมาณเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา และเร็วกว่าหลายท้องถิ่นด้วย
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ระนองเปิดรับบริจาคช่วยเหลือน้ำท่วมที่ศาลากลาง

จังหวัดระนองเชิญชวนชาวระนองร่วมบริจาคสิ่งของและเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคกลางและจังหวัดที่ประสบภัย โดยตั้งศูนย์รับบริจาคที่ศาลากลางจังหวัด
      
       
นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จังหวัดระนองได้ตั้งศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดระนอง ณ ศาลากลางจังหวัดระนอง เพื่อนำสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค และเงินสดไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคกลาง และจังหวัดอื่นๆ ที่กำลังประสบภัย
      
       ดังนั้น จังหวัดระนองจึงขอเชิญชวนชาวระนองร่วมบริจาคสิ่งของต่างๆ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เรือ เสื้อชูชีพ เสื้อผ้า ยารักษาโรค เป็นต้น ได้ที่ศาลากลางจังหวัดระนองทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ สำหรับเงินสดสามารถบริจาคได้ ณ ศูนย์รับบริจาคศาลากลางจังหวัด หรือโอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาระนอง หมายเลขบัญชี 806-0-30510-7 ชื่อบัญชี เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดระนอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ระนอง โทร.0-7786-2093, 0-7786-2095
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ระนองส่งเรือท้องแบนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม กทม.

ผู้ว่าฯระนอง ส่งเรือท้องแบน 5 ลำ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกรุงเทพฯ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเงินและสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยด้วย              วันที่ 3 พ.ย.54 นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานปล่อยรถบรรทุกเรือท้องแบนจำนวน 5 ลำ พร้อมเสื้อชูชีพ อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง เพื่อนำไปช่วยเหลืออพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
      
       ประกอบด้วย เรือท้องแบนเป็นของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง จำนวน 3 ลำ รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน รถยนต์บรรทุก 4 ล้อ 1 คัน น้ำมันเชื้อเพลิงจำนวน 200 ลิตร
      
       นอกจากนี้ สถานีทรัพยากรป่าชายเลนที่ 9 อ.กะเปอร์ สนับสนุนเรือยนต์พาดหาง 1 ลำ พร้อมเจ้าหน้าผู้รับผิดชอบ,สถานีทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 เมืองระนอง สนับสนุนเรือยนต์พาดหาง 1 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ, อบจ.ระนอง สนับสนุน เจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงาน จำนวน 5 นาย, สมาคมประมง จ.ระนอง ร่วมกับ สนง.ประมง จ.ระนอง สนับสนุนเสื้อชูชีพจำนวน 91 ตัว และเงินจำนวน 15,000 บาท
      
       ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนจังหวัดระนอง ได้นำเครื่องอุปโภคและบริโภค และเงินสด ที่ได้รับบริจาคจากประชาชนชาวระนองไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมผ่านหน่วย งานต่างๆ มาแล้วหลายเที่ยว
      
       ขณะนี้จังหวัดยังคงรับบริจาคสิ่งของและเงินสดอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบริจาคได้ที่ ศาลากลางจังหวัดระนอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง เทศบาลเมืองระนอง เทศบาลตำบลบางริ้น หรือ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง หรือโอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาระนอง หมายเลขบัญชี 806-0-30510-7 ชื่อบัญชี เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดระนอง
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ตร.ระนองกวาดล้างยาเสพติดได้ผู้ต้องหา 108 คน พร้อมยึดอื้อ

ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง สรุปผลการกวาดล้างยาเสพติด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 108 คน พร้อมยึดทรัพย์สินทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์และเงินสด              เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 3 พ.ย.54  พล.ต.ต.วิทูร ธรรมรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการฯ และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรต่าง ๆ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดในห้วงระหว่างวันที่ 7 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2554 ตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8
      
       ทั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดได้จำนวน 107 ราย รวมผู้ต้องหา 108 คน พร้อมของกลางยาบ้า 3,356 เม็ด กัญชา 2.55 กิโลกรัม ยาไอซ์ 100.8 กรัม นอกจากนี้ยังสามารถยึดทรัพย์สินมาตรวจสอบตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 อีกหลายรายการ เช่น รถยนต์ 3 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนหนึ่ง เงินสด 5,500 บาท รวมทั้งสมุดบัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม เป็นต้น
      
       พล.ต.ต.วิทูร กล่าวด้วยว่า มีอยู่คดีหนึ่งถือเป็นคดีที่น่าสนใจ คือ คดีของนางสุมาลี ยินดี อายุ 53 ปี ที่ถูกตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนองจับกุม ซึ่งจากการสอบสวนขยายผลพบว่ามีการลักลอบค้าและเสพยาเสพติดกันทั้งครอบครัว รวม 4 คน ทั้งพ่อแม่และลูกชาย 2 คน โดยสามารถตรวจค้นภายในบ้านพบยาบ้า 42 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ
      
       เจ้าหน้าที่จึงยึดรถยนต์กระบะ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสมุดบัญชีธนาคาร 6 เล่ม และบัตรเอทีเอ็มจำนวน 4 ใบ มาตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดหรือไม่
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ทหาร ฉก.ร.25 ระนองจับขบวนการลอบตัดไม้ ได้ของกลางเพียบ

ทหาร ฉก.ร.25 ระนองจับมอดไม้ ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมไม้แปรรูป เลื่อยยนต์และรถกระบะ 2 คัน      
       
วันที่ 4 พ.ย.54 พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 (ผบ.ฉก.ร.25) กองกำลังเทพสตรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ธนพันธ์ ศุภประเสริฐ หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว ฉก.ร.25 ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก บ้านสองแพรกขวา หมู่ที่ 8 ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านขยายผลตามโครงการพระราชดำริ หลังได้รับได้รับรายงานว่า กำลังมีกลุ่มบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า
      
       จากการตรวจสอบพบกลุ่มมอดไม้เป็นชายจำนวน 3 คน กำลังใช้รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ลำเลียงไม้แปรรูปออกจากบริเวณป่าดังกล่าว จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบพบไม้แปรรูปมาอยู่ในกระบะทั้งสองคัน โดยคันแรกเป็นรถยี่ห้อ มิตซูบิซิ สตราด้า สีเทา ตอนเดียว ทะเบียน บฉ 7377 ประจวบคีรีขันธ์ บรรทุกไม้แปรรูป จำนวน 43 แผ่น และเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง โดยมี นายสุภาพ หรือ บ่าว บัวทิพย์ อายุ 32 ปี เป็นผู้ขับ
      
       คันที่ 2 ยี่ห้อ นิสัน ตอนครึ่ง สีแดง ทะเบียน บธ 3915 ชุมพร บรรทุกไม้แปรรูป จำนวน 23 แผ่น ซึ่งมี นายบุญกรอง หรือ ล้าน อรรคฮาดศรี อายุ 44 ปี เป็นผู้ขับ และมี นายธีระศักดิ์ หรือ โอ๊ด อรรคฮาดศรี อายุ 22 ปี บุตรชาย นั่งอยู่ที่กระบะบรรทุก เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุม และตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้
      
       จากนั้นได้ขยายผลไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 635 ม.8 ต.ลำเลียง อ.กระบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายสุภาพ พบไม้แปรรูปอีก จำนวน 86 แผ่น และสังเกตพบเสาบ้าน ซึ่งนำไม้ซุงที่ยังไม่แปรรูป ขนาด 1 คนโอบ อีก 9 ต้น มาสร้างบ้าน จึงยึดไว้ตรวจสอบทั้งหมด พร้อมทั้งส่งตัวผู้ต้องหาและของกลาง ให้หน่วยพิทักษ์ป่า เขตพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

รวบยกครอบครัวพัวพันยาเสพติด

ตำรวจสายสืบ ภ.จว.ระนองรวบยกครอบครัว พ่อ แม่และลูกชาย 2 คน พัวพันยาบ้าทั้งขายและเสพ               เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 2 พ.ย.54  พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผบก.ภ.จว.ระนอง สั่งการให้ พ.ต.ต.ถาวร อัมพันธ์ สว.สส.ภ.จว.ระนองและ ร.ต.อ.ปราโมทย์ ผาสุก รอง สว.สส.ภ.จว.ระนอง นำกำลังเข้าจับกุม นางสุมาลี ยินดี อายุ 45 ปี และ นายยศกร ยินดี อายุ 20 ปี สองแม่ลูกในซอยจัดสรรพัฒนา 12 ที่บ้านเช่าเลขที่ 145/28 ม.1 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง
      
       หลังจากขยายผลจากการที่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อีกชุดสามารถจับกุม นายพิเชษฐ์ ยินดี อายุ 48 ปี และนายณรงค์พล ยินดี อายุ 27 ปี สามีและลูกชายนางสุมาลี พร้อมยาบ้าจำนวน 1 เม็ด โดยทั้ง 2 พ่อลูกให้การซัดทอดว่าเอายาบ้ามาจากนางมาลี
      
       จากการตรวจค้นบ้านเช่าหลังดังกล่าว พบยาบ้าจำนวน 48 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกใสชนิดปิดฝารูดแบบสุญญากาศ ซุกซ่อนไว้ในกล่องไม้ล็อกกุญแจอย่างดี แอบซ่อนไว้ที่บนฝ้าเพดานในห้องนอนของลูกชาย
      
       จากการสอบสวนในเบื้องต้น นางสุมาลี รับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยให้ลูกชายเป็นคนโทร.สั่งมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคนนำมาส่งโดยจะโยนทิ้งไว้ตามแถวใต้ต้นไม้หรือใต้เสาไฟฟ้า โดยจะมีคนโทร.มาบอกให้ไปหยิบของว่าอยู่ตรงไหน ในราคาเม็ดละ 200 บาท เอามาขายต่อเม็ดละ 250 บาท
      
       ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนขับรถบรรทุก 10 ล้อ แม้แต่ลูกชายที่ขับรถบรรทุก 10 ล้อกับสามีก็เป็นลูกค้าของตนเองด้วย โดยจะขายให้ลูกในราคาต้นทุน โดยทั้ง 4 คนพ่อแม่และลูกชาย 2 คน เสพยาบ้าด้วย ตนเองไม่ได้ทำงานอะไร ขายแต่ยาบ้าอย่างเดียว ทำมานานนับปีไม่เคยถูก
      
       เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

หนุ่มเยอรมันตายปริศนาที่ระนอง

พบหนุ่มเยอรมันนอนเปลือยตายปริศนาคาโรงแรมกลางเมืองระนอง               เมื่อวันที่ 26 ต.ค.54 ร.ต.อ.สุรศักดิ์ จินตนา ร้อยเวร สภ.เมืองระนอง จ.ระนอง รับแจ้งมีเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง ในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองระนอง ต.เขานิเวศน์ เขตเทศบาลเมืองระนอง จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลระนอง มูลนิธิระนองสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุผู้เสียชีวิตพักอยู่ที่ห้องหมายเลข 15 เมื่อเข้าไปในห้อง พบศพชาวชาวต่างประเทศนอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพเปลือยกาย บริเวณรูจมูก ปาก และทวารหนัก มีเลือดออก ตรวจสอบตามลำตัวไม่พบว่ามีบาดแผล และร่องรอยของการต่อสู้
      
       โดยมีหนังสือเดินทาง (Passport) วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ระบุชื่อนาย ฮากเนอร์ เบิร์นฮิลล์จา (HAGENAUER BERND ILL JA) อายุ 39 ปี สัญชาติดอยซ์ (DEUTSCH) หรือเยอรมนี พร้อมทั้งกระเป๋าใส่สัมภาระจำนวน 2 ใบตั้งอยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่มีการรื้อค้น
      
       เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว แต่ประมาณ 2วันที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวไม่ลงมารับประทานอาหารที่ด้านล่าง พนักงานเห็นผิดสังเกต จึงไปเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบมาจากภายในห้อง จึงไปบอกผู้ดูแลโรงแรมให้นำกุญแจสำรองมาเปิดห้อง และพบว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเสียชีวิตอยู่ในห้องพัก จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
      
       จากการตรวจสอบของแพทย์ในเบื้องต้น คาดว่า น่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ผู้ตายน่าจะเป็นโรคประจำตัวบางอย่าง แต่ยังไม่สามารถจะบอกถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้ ต้องนำศพไปตรวจพิสูจน์ย่างละเอียดที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งจะได้ประสานไปยังสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยเพื่อติดต่อญาติพี่ น้องของผู้ตายต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์