วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ระนองเริ่มแล้วศึกสายน้ำเรือยาวขึ้นโขนชิงธง


เริ่มแล้วการแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และงานลอยกระทง ครั้งที่ 2 ณ ฝายคลองบางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 16-21

วันที่ 16 พ.ย.53 เทศบาลตำบลบางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ได้อัญเชิญถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประดิษฐานบนเรือสุพรรณหงส์จำลอง พร้อมด้วยริ้วขบวนแห่ไปรอบตัวเมืองระนอง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศเรือยาวประเภท 32 ฝีพาย ในงานประเพณีแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง ครั้งที่ 2 และงานประเพณีลอยกระทง ณ ฝายคลองบางริ้น ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง

จากนั้นนายชวลิต เทพประดิษฐ์ นายกเทศมนตรีตำบลบางริ้น ได้อัญเชิญถ้วยพระราชทานไปประดิษฐานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ สถานที่จัดการแข่งขันเรือยาว บริเวณฝายคลองบางริ้น ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง จากนั้นเป็นการแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธงวันแรก ในประเภท 8 ฝีพาย ซึ่งมีเรือทั้งในจังหวัดและจากจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมแข่งขันกว่า 20 ลำ ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวระนอง เป็นจำนวนมาก

นายชวลิต เทพประดิษฐ์ นายกเทศมนตรีตำบลบางริ้น กล่าวว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลการแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง ในครั้ง ซึ่งเทศบาลตำบลบางริ้นได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ย.) เวลา 10.00 น.

โดยมี นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธาน จากนั้นเป็นการแข่งขันเรือยาวประเภท 32 ฝีพาย จำนวน 1 คู่ จบแล้วแข่งขันเรือยาวประเภท 16 ฝีพาย จำนวน 18 ลำ และวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 เป็นการแข่งขันเรือยาวประเภท 32 ฝีพาย ซึ่งมีเรือเข้าร่วมแข่งขัน 9 ลำ เรือชนะเลิศได้ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงิน 50,000 บาท ส่วนเรือประเภท 16 ฝีพาย ชนะเลิศ ได้รับถ้วยเกียรติยศของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พร้อมเงิน 40,000 บาท และเรือประเภท 8 ฝีพายชนะเลิศได้รับถ้วยของ นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมเงิน 20,000 บาท

นายชวลิต กล่าวด้วยว่า การแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธงของเทศบาลตำบลบางริ้น ใช้คณะกรรมการผู้ตัดสินชี้ขาดและทีมพากษ์จากอำเภอหลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งถือเป็นต้นตำรับการแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธงมานานกว่า 150 ปี โดยผสมผสานกับคณะกรรมการผู้ตัดสินและทีมนักพากษ์จากจังหวัดระนอง โดยได้รับเกียรติจากนายวิจิตร ธนัตวรานนท์ ที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการกีฬาเพื่อมวลชน กีฬาพื้นฐาน สุขภาพ และนันทนาการ คณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภา และคณะกรรมการบริหารสมาคมเรือพายแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยานตลอดการแข่งขันด้วย

นายวิจิตร กล่าวว่า สภาพภูมิประเทศของฝายคลองบางริ้น มีความสวยงามมาก มีเกาะกลางน้ำ อยู่ใกล้ชุมชนบางริ้นและตัวเมืองระนอง และที่สำคัญมีถนนเพชรเกษมตัดผ่านกลาง ทำให้การเดินทางไปมาสะดวก โดยตนจะได้ผลักดันให้เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำในระดับประเทศ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมเรือพายประเภทต่างๆ ทั้งเรือแคนู เรือคายัค และเรือยาว เป็นต้น ซึ่งเป็นการสร้างนักกีฬาเรือพายในทุกระดับต่อไป

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: