2 โจรอ้วนผอมงัดร้านขายโทรศัพท์ยกตู้เซฟขึ้นรถกระบะหลบหนีลอยนวล
วันที่ 1 ก.ย.54 พ.ต.ท.มาโนชญ์ บุญสม สารวัตรเวร สภ.เมืองระนอง ได้รับแจ้งว่าที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ชื่อร้าน 215 ตั้งอยู่เลขที่ 215 ถนเรืองราษฎร์ เขตเทศบาลเมือง ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง ได้ถูกคนร้ายงัดร้าน และยกตู้เซฟภายในร้านไปได้ จึงไปที่เกิดเหตุพบ นางสาวจันทรา วุฒิธรรมกิตติ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านยืนรอให้ขอมูลกับเจ้าหน้าที่
นางสาวจันทรา กล่าวว่า กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้บางส่วน ซึ่งมีด้วยกันจำนวน 2 คน ลักษณะอ้วน 1 คน ผอม 1 คน โดยขับรถกระสีดำมาจอดใกล้ ๆ กับร้าน ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.
จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้เดินเข้ามาที่จุดติดตั้งกล้องวงจรปิดหน้าร้าน จากนั้นได้ผลักกล้องวงจรปิดให้หันไปทางด้านอื่น เพื่อไม่ให้เห็นคนร้าย จากนั้นได้ช่วยกันตัดตัวคลองกุญแจที่เป็นประตูเหล็กและเข้าไปถอดสายที่ต่อเชื่อกับกล้องวงจรปิดและคอมพิวเตอร์
จากนั้นได้ช่วยกันยกตูเซฟ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเคาน์เตอร์ที่ขายโทรศัพท์ ซึ่งภายในตู้เซฟมีเพียงโทรศัพท์ของลูกค้าที่นำมาซ่อมจำนวน 4 เครื่อง บลูทูธ จำนวน 2 ตัว และเอกสารต่าง ๆ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาในประกันชีวิต เป็นต้น แต่คนร้ายไม่ได้หยิบเอาเครื่องโทรศัพท์ในตู้โชว์ไปแต่อย่างใด
นางสาวจันทรา กล่าวว่า มีการระวังตัวอยู่ตลอดจะไม่นำเงินมาเก็บไว้ในตู้เซฟ เนื่องจากกลางคืนไม่มีคนนอนเฝ้าร้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้เจ้าของร้านทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง 11 ตัวอย่างละเอียด เพื่อดูรูปพรรณสันฐานของคนร้าย รวมไปถึงรถที่ใช้ก่อเหตุ จะได้เป็นแนวทางสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันที่ 1 ก.ย.54 พ.ต.ท.มาโนชญ์ บุญสม สารวัตรเวร สภ.เมืองระนอง ได้รับแจ้งว่าที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ชื่อร้าน 215 ตั้งอยู่เลขที่ 215 ถนเรืองราษฎร์ เขตเทศบาลเมือง ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง ได้ถูกคนร้ายงัดร้าน และยกตู้เซฟภายในร้านไปได้ จึงไปที่เกิดเหตุพบ นางสาวจันทรา วุฒิธรรมกิตติ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านยืนรอให้ขอมูลกับเจ้าหน้าที่
นางสาวจันทรา กล่าวว่า กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้บางส่วน ซึ่งมีด้วยกันจำนวน 2 คน ลักษณะอ้วน 1 คน ผอม 1 คน โดยขับรถกระสีดำมาจอดใกล้ ๆ กับร้าน ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.
จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้เดินเข้ามาที่จุดติดตั้งกล้องวงจรปิดหน้าร้าน จากนั้นได้ผลักกล้องวงจรปิดให้หันไปทางด้านอื่น เพื่อไม่ให้เห็นคนร้าย จากนั้นได้ช่วยกันตัดตัวคลองกุญแจที่เป็นประตูเหล็กและเข้าไปถอดสายที่ต่อเชื่อกับกล้องวงจรปิดและคอมพิวเตอร์
จากนั้นได้ช่วยกันยกตูเซฟ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเคาน์เตอร์ที่ขายโทรศัพท์ ซึ่งภายในตู้เซฟมีเพียงโทรศัพท์ของลูกค้าที่นำมาซ่อมจำนวน 4 เครื่อง บลูทูธ จำนวน 2 ตัว และเอกสารต่าง ๆ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาในประกันชีวิต เป็นต้น แต่คนร้ายไม่ได้หยิบเอาเครื่องโทรศัพท์ในตู้โชว์ไปแต่อย่างใด
นางสาวจันทรา กล่าวว่า มีการระวังตัวอยู่ตลอดจะไม่นำเงินมาเก็บไว้ในตู้เซฟ เนื่องจากกลางคืนไม่มีคนนอนเฝ้าร้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้เจ้าของร้านทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง 11 ตัวอย่างละเอียด เพื่อดูรูปพรรณสันฐานของคนร้าย รวมไปถึงรถที่ใช้ก่อเหตุ จะได้เป็นแนวทางสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น