ทหารทัพเรือภาคที่ 3 รวบพม่า 33 คนและเรือบรรทุกไม้ขณะลักลอบเข้าไทยด้านจังหวัดระนอง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.ย.54 น.ต.กงกฤช คงยิ่ง ผู้บังคับการเรือหลวงคำรณสินธุ ทัพเรือภาคที่ 3 จ.พังงา พร้อมกำลัง ได้นำตัวชาวพม่าจำนวน 33 คน เป็นผู้ชาย 24 คน ผู้หญิง 8 คน และเด็ก 1 คน พร้อมพร้อมเรือหางยาวหัวโทง 2 ลำ ซึ่งเรือ 1 ใน 2 ลำบรรทุกไม้เนื้อแข็งกึ่งแปรรูปหรือไม้ตับขนาดหน้ากว้างและหนา 10-15 นิ้ว ยาว 4-5 เมตร จำนวน 40 ท่อน ไปขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรืออเนกประสงค์จังหวัดระนอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง
หลังจากจับกุมได้ขณะที่แรงงานต่างด้าวใช้เรือหางยาวลักลอบเข้าจังหวัดระนอง ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะสินไห หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารใดๆ พร้อมประสานไปยังสถานีตำรวจภูธร สภ.ปากน้ำอ.เมืองระนอง และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ระนอง ให้รับตัวไปทำประวัติ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนเรือบรรทุกไม้ประสานไปยังด่านศุลกากรระนองรับไปดำเนินคดี
น.ต.กงกฤช กล่าวว่า พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 นำเรือหลวงคำรณสินธุ และเรือ ต.220 ออกลาดตระเวนในน่านน้ำทะเลอันดามัน ตามแนวชายแดนไทย-พม่า เขตพื้นที่จังหวัดระนอง
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 3 ก.ย.54 เรดาร์สามารถจับภาพเรือต้องสงสัยได้ 1 ลำ กำลังวิ่งเข้ามาในน่านน้ำไทย ด้านทิศตะวันตกเกาะสินไห จึงส่งเรือ ต.220 ออกไปตรวจสอบพบเพียงเรือหางยาวที่บรรทุกไม้เต็มลำเรือ ส่วนคนขับเรือและลูกเรือ ได้อาศัยความมืดกระโดดลงทะเลหลบหนีไปก่อนแล้ว จึงยึดเรือไว้
จากนั้น เวลาประมาณ 04.00 น. เรดาร์สามารถจับภาพเรือหางยาววิ่งฝ่ากระแสคลื่นเข้ามาอีก 1 ลำ จึงส่งเรือ ต.220 ออกไปตรวจสอบอีกพบคนต่างด้าวนั่งอยู่เต็มลำเรือ จำนวน 33 คน จึงควบคุมตัวไว้พร้อมประสานไปยังศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-พม่าจังหวัดระนอง ของทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อนำคนต่างด้าวและเรือบรรทุกไม้ไปขึ้นฝั่งที่ จ.ระนอง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.ย.54 น.ต.กงกฤช คงยิ่ง ผู้บังคับการเรือหลวงคำรณสินธุ ทัพเรือภาคที่ 3 จ.พังงา พร้อมกำลัง ได้นำตัวชาวพม่าจำนวน 33 คน เป็นผู้ชาย 24 คน ผู้หญิง 8 คน และเด็ก 1 คน พร้อมพร้อมเรือหางยาวหัวโทง 2 ลำ ซึ่งเรือ 1 ใน 2 ลำบรรทุกไม้เนื้อแข็งกึ่งแปรรูปหรือไม้ตับขนาดหน้ากว้างและหนา 10-15 นิ้ว ยาว 4-5 เมตร จำนวน 40 ท่อน ไปขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรืออเนกประสงค์จังหวัดระนอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง
หลังจากจับกุมได้ขณะที่แรงงานต่างด้าวใช้เรือหางยาวลักลอบเข้าจังหวัดระนอง ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะสินไห หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารใดๆ พร้อมประสานไปยังสถานีตำรวจภูธร สภ.ปากน้ำอ.เมืองระนอง และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ระนอง ให้รับตัวไปทำประวัติ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนเรือบรรทุกไม้ประสานไปยังด่านศุลกากรระนองรับไปดำเนินคดี
น.ต.กงกฤช กล่าวว่า พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 นำเรือหลวงคำรณสินธุ และเรือ ต.220 ออกลาดตระเวนในน่านน้ำทะเลอันดามัน ตามแนวชายแดนไทย-พม่า เขตพื้นที่จังหวัดระนอง
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 3 ก.ย.54 เรดาร์สามารถจับภาพเรือต้องสงสัยได้ 1 ลำ กำลังวิ่งเข้ามาในน่านน้ำไทย ด้านทิศตะวันตกเกาะสินไห จึงส่งเรือ ต.220 ออกไปตรวจสอบพบเพียงเรือหางยาวที่บรรทุกไม้เต็มลำเรือ ส่วนคนขับเรือและลูกเรือ ได้อาศัยความมืดกระโดดลงทะเลหลบหนีไปก่อนแล้ว จึงยึดเรือไว้
จากนั้น เวลาประมาณ 04.00 น. เรดาร์สามารถจับภาพเรือหางยาววิ่งฝ่ากระแสคลื่นเข้ามาอีก 1 ลำ จึงส่งเรือ ต.220 ออกไปตรวจสอบอีกพบคนต่างด้าวนั่งอยู่เต็มลำเรือ จำนวน 33 คน จึงควบคุมตัวไว้พร้อมประสานไปยังศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-พม่าจังหวัดระนอง ของทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อนำคนต่างด้าวและเรือบรรทุกไม้ไปขึ้นฝั่งที่ จ.ระนอง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น